จมอยู่ในบ้าน 1 ปี ไร้สามีข้างกาย!
บ้าน ‘จิ๋ม มยุรฉัตร’ วัย 73 ปี เจ้าของฉายามาเฟียวงการบันเทิง ใครเล่นไม่ดีสั่งปลด
สำหรับ ‘แม่จิ๋ม มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช’ เป็นผู้จัดอันดับต้น ๆ ของวงการบันเทิงที่มีผลงานออกสู่สายตาประชาชนมามากมาย
ซึ่งหลายคนก็จะมองว่า ‘แม่จิ๋ม’ คือมาเฟียของวงการบันเทิง ถ้านักแสดงคนไหนเล่นไม่ดีสั่งปลดเลยทีเดียว ‘แม่จิ๋ม’ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง
ด้วยการเป็นนางเอก จนค่อย ๆ ขยับมาเป็นผู้จัด มีผลงานเป็นที่ปรากฏและเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนจำนวนไม่น้อย
และภายหลังได้ส่งไม้ต่อให้กับ ‘คุณจ๋า’ ลูกสาวคนเก่ง ที่สามารถรับช่วงต่อจากคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ‘แม่จิ๋ม’ อยู่ในวงการมา 50 ปี
เป็นผู้จัดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย หลายคนบอกว่าการเป็นผู้จัด เราก็นั่งทำงานในออฟฟิศ ชี้นิ้วสั่งให้ดารามากราบไหว้
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลหลายคนอาจจะเข้าใจผิดทั้งหมด “ผู้จัดสมัยก่อนตอนที่แม่เข้ามาเป็นมันยังไม่เยอะ และไม่เรื่องมากเท่าทุกวันนี้
พอเข้ามาเป็นผู้จัดก็จะเริ่มประสาท คนนี้อย่างนั้น คนนั้นอย่างนี้ วันนี้มาไม่ได้ วันนี้ต้องรีบไป แต่สมัยนั้นไม่มี สมัยนั้นคือ
คุณต้องให้เราตั้งแต่ 6 เช้าถึง 2 ทุ่ม” มีบางกระแสบอกว่าถ้าบางคนมาเล่น แล้วเล่นไม่ดี แม่สั่งเปลี่ยนตัวกะทันหัน
‘แม่จิ๋ม’ ไม่เคยสั่งเปลี่ยนใครเลย แต่ว่าจะมีการประชุมกันภายใน สมมติว่าคนนี้ที่เลือกมาเล่นไม่ได้จริง ๆ เอามาเทรนใหม่ แล้วยังไม่ได้
ถ้าเป็นลงมติทั้งในห้องส่ง ทั้งในออฟฟิศว่าเปลี่ยนเถอะเราก็จะบอกว่าขอเปลี่ยน แต่ว่าต้องสุดวิสัยจริง ๆ แต่แทบไม่เคยนะ
ส่วนเรื่องของ ‘อาแป๊ะ’ สามี ‘แม่จิ๋ม’ เป็นเรื่องที่ทำให้แม่จมไปพักใหญ่ ๆ “พ่อเป็นคนรอบคอบมาก พ่อทำบันทึกการรักษาเอาไว้
ว่าห้ามเจาะ ห้ามปั้มหัวใจ ห้ามทุกอย่างที่ช่วยให้มานอนเป็นผัก เขาเขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แม่ก็เอาให้แพทย์ดู ก็เหมือนเป็นคนสั่ง
แม่ไม่รู้ว่าทำใจลำบากหรือเปล่า แต่แม่จมไปปีนึง โดยที่แม่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตอนนั้นน้ำตาไม่มี ความรู้สึกก็ไม่มี เหมือนหยุดตัวเอง
แล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นต่อจากนั้น เหมือนชีวิตขาดที่พึ่ง แล้วเสียศูนย์ไปเลย ขาดคู่ชีวิตที่เคยช่วยกันดูแลกัน พออยู่คนเดียวแล้ว
พ่อตื่นเช้าขึ้นมาก็คิดว่าทำอะไรอ่ะ กินไรดี ถ้าพ่ออยู่เราก็ถามเขา ทุกวันเป็นแบบนี้มา 30-40 ปี แล้วก็ไม่เคยแยกกันเลย
ก็เลยแบบชีวิตนี้จะอยู่ทำไม จนวันนี้ความรู้สึกแม่ยังเป็นแบบนั้น แต่ว่าดีขึ้น เพราะว่าสงสารลูก ลูกเห็นแม่เป็นทุกข์ เห็นแม่ร้องไห้
แต่แม่ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น คือพ่อไม่ได้เป็นเศรษฐีร่ำรวยอะไร แต่พ่อเป็นคนดีมาก แม่ไม่เคยคิดถึงชาติหน้าเลย
แม่คิดว่าถ้าได้ขึ้นไปบนนั้นคงได้เจอเขา 3 ปีที่พ่อจากไป แม่สวดมนต์ให้พ่อทุกวัน 1 ปีเต็ม ๆ ที่ไม่เคยขาดเลยสักวัน”