X

เปิดความจริง ‘ศรินทิพย์ ศิริวรรณ’ หาย 35 ปีคนไม่กล้าพูดถึง

เปิดความจริง ‘ศรินทิพย์ ศิริวรรณ’ หาย 35 ปีคนไม่กล้าพูดถึง

“ศรินทิพย์”ดาราผู้สาบสูญ เจ้าของรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงประกอบหญิงและรางวัลตลกหญิงยอดเยี่ยม เมื่อ 20-30 ปี

ก่อนแฟนละครและภาพยนตร์รู้จักมักคุ้นดาราสาวแสนสวยเจ้าของนามศรินทิพย์ดี เธอเคยรับบทนำในภาพยนตร์หลายเรื่อง

เธอมีชื่อจริงว่า “ไพลิน คอลลิน” เกิดที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อปี 2469 พ่อเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ ส่วนแม่เป็นคนไทย

ต่อมาชาลีได้พาภรรยาไปฝากฝังกับ “อรรถ อรรถไกวัลวจี” ผู้จัดการคณะละครเทพศิลป์ แล้วนำเข้าสู่วงการมายาตั้งชื่อให้ว่า

“ศรินทิพย์ ศิริวรรณ” แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในปี 2497 ก่อนจะโลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์มชั่วเวลาหนึ่ง ระยะหลังเธอหันมา

แสดงละครโทรทัศน์ ด้วยเป็นดาราหน้าไม่ค่อยยิ้ม บทที่ได้รับส่วนใหญ่จะเป็นบทแม่ และบทอันเป็นที่จดจำมากที่สุดเรื่องหนึ่ง

คือ “หม่อมแม่” ของคุณชายกลางในเรื่องบ้านทรายทอง ฉบับ “จารุณี สุขสวัสดิ์-พอเจตน์ แก่นเพชร” แต่แล้วในวัย 61 ปี จู่ๆ

ศรินทิพย์ก็มาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยทางหลานสาวของศรินทิพย์เผยว่า 2 ทุ่มเศษ วันที่ 2 ธันวาคม 2530 ศรินทิพย์

นั่งแท็กซี่จากบ้านไปห้างเพื่อพบกับชายที่อ้างตัวว่าชื่อ “จำนงค์” เพื่อพูดคุยตกลงเรื่องค่าตัวในการถ่ายแบบปฏิทินปีใหม่

ซึ่งจำนงค์บอกกับเธอว่ามีดาราดังมาร่วมถ่ายแบบมากมาย และศรินทิพย์จะได้ค่าเหนื่อยราว 10,000 บ. นี่คือข้อมูลที่สามีและคน

ในบ้านได้รับรู้ก่อนเธอจะหายตัวไป คืนนั้นศรินทิพย์ไม่ได้กลับบ้านและคนในบ้านก็ไม่ได้สนใจ เนื่องจากอาชีพนักแสดงการ

กินนอนอยู่ในกองถ่ายเป็นเรื่องปกติธรรมดา กระทั่งบ่ายวันรุ่งขึ้นทุกคนถึงได้รับรู้ถึงความผิดปกติ เมื่อ “กำธร ทัพคัลไลย” ผู้สร้างภาพยนตร์

ได้โทรศัพท์มาถามหาศรินทิพย์ เนื่องจากมีคิวถ่ายภาพยนตร์ตั้งแต่เช้า แต่เธอยังไม่มากองถ่ายจนต้องพักคิวถ่ายรอเธอแค่คนเดียว

ทุกคนทราบดีว่าศรินทิพย์เป็นคนตรงต่อเวลา รักงานแสดงภาพยนตร์ ที่สำคัญไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนศรินทิพย์จะแจ้งข่าวความเคลื่อนไหว

ให้คนทางบ้านทราบตลอด ไม่เคยเงียบหายไปนานอย่างที่เป็นอยู่ ดังนั้น การหายตัวไปครั้งนี้จึงผิดปกติวิสัยจากที่เคยเป็น

ข่าวการหายตัวไปของศรินทิพย์ ศิริวรรณ เป็นข่างโด่งดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ ระหว่างการรอคอยของญาติพี่น้องและครอบครัว

จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี ศรินทิพย์ยังคงเป็นเงาให้ผู้คนติดตามค้นหา ทางการก็จัดให้เธอเป็นบุคคลหายสาบสูญถาวร

“แรกๆ ยังมีความหวังอยู่ พอนานๆ ไปก็เริ่มหมดหวัง จน 20 ปีให้หลังเราก็ไม่เหลือความหวังอะไรอีก

About Awitra Truststore Columnist

View all posts by Awitra Truststore Columnist →