ผู้ชายไม่ใช่สเปค!
ชีวิตปัจจุบัน ‘บุ๋ม รัญญา’ ไม่ออกทีวี พบรักแท้ ใช้ชีวิตอยู่ภาคเหนือ
จากงานแสดงเบื้องหน้า ที่พร่ำบอกตัวเองอยู่เสมอว่า ทำไปเพราะเงิน และไม่ใช่สิ่งที่ชอบเลยสักนิด แต่กลับเป็นสิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุด ด้วยความสามารถ บวกกับความตั้งใจ และพรสวรรค์
บัดนี้กลายเป็นอาชีพที่เธอรักโดยไม่รู้ตัว ต่อด้วยการเป็นแอ๊กติ้งโค้ช ผู้ที่มาช่วยเสริมทัพให้ละครสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และอีกก้าวสำคัญกับการเป็นผู้กำกับการแสดง
ก่อนเป็นนักแสดงเจ้าบทบาท จริงๆ ไม่ชอบ ไม่อยากเป็นดาราเลยนะคะ อยากเป็นพยาบาล แต่ว่าแม่ให้หยุดเรียนปีหนึ่ง ก็น้อยใจเสียใจ
แล้วแม่ก็บอกว่าโรงเรียนการแสดงช่อง 3 เขาเปิดสอนฟรี อยากให้เราไปเรียน ย้ำนะคะว่าเรียนฟรีไม่เสียเลยสักบาท แต่ใจเราไม่อยากไปเรียนเลย
เพราะว่าเราไม่ได้อยากเป็นดารา จะให้ไปเรียนทำไม ไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็เลยไปค่ะ แล้วพอดีว่าได้ตังค์ด้วย เพราะว่าจะมีโมเดลลิ่งติดต่อให้ไปงานนู่นนี่นั่น
อีเว้นท์ถ่ายแบบเดินแบบ เมื่อ 30 ปีที่แล้วได้วันละพัน นี่ไม่น้อยนะคะ เราก็เลยไปหลังจากนั้นก็เรียนต่อไปเรื่อยๆ
ผลงานแจ้งเกิด เรื่อง “นางเอก” เลยค่ะ และได้เป็นนางเอกของพี่ไก่อยู่ประมาณ 2-3 เรื่อง ไปเล่นรัชฟิล์มก็ยังเป็นนางเอกอยู่ เล่นนางเอกสลับกับนางร้ายไปเรื่อย
บางทีก็เล่นเป็นตัวตลก เราไม่ได้ยึดติดกับบทนางเอก พี่ไก่สอนมาอย่างนี้ แล้วบุ๋มเองก็ไม่ได้นึกเลยว่าฉันจะต้องเป็นนางเอก แต่นึกแค่ว่ามันเป็นอาชีพ
ที่เล่นละครเรื่องไหนจะต้องทำงานเรื่องนั้น แล้วก็ต้องได้รายได้ คือทำทุกอย่าง บทไหนก็เล่น หนังก็เล่นด้วยค่ะ ของไฟว์สตาร์
เล่นของ “อารุจน์ รณภพ” นั่นก็ดังอีกเหมือนกัน เล่นเป็นบทคนใช้ที่ได้กับเจ้านาย คือ “พี่แซม-ยุรนันท์” เรื่อง “ดงดอกไม้”
จากเบื้องหน้าสู่งานเบื้องหลัง บุ๋มเริ่มจากการเป็นแอ๊กติ้งโค้ชค่ะโดย “พี่จิ๋ม-มยุรฉัตร” ส่งเด็กมาให้ช่วยดู คือ “แอฟ-ทักษอร” และ “ลดา เองชวะเดชาศิลป์”
ตอนนั้นพี่จิ๋มจะทำเรื่องริษยา นานมากแล้วค่ะ เกือบ 20 ปีแล้ว นั่นคืองานแรกที่ทำ พอเริ่มงานนั้นปุ๊บก็เหมือนมีมาเรื่อยๆ แล้วสมัยนั้นจะมีดาราเพิ่มเข้ามาเยอะแยะ
นักแสดงส่วนใหญ่จะเล่นละครไม่เป็น บางทีผู้กำกับอาจจะดูแอ๊กติ้งไม่ทั่ว เขาก็เลยเอาแอ๊กติ้งโค้ชเข้าไปช่วย เลยเริ่มมีอาชีพแอ๊กติ้งโค้ชประจำกองต่างๆ ทำมาเรื่อยๆ
และที่หนักๆเลยคือมาทำให้กับกองพี่ไก่ แทบทุกเรื่องเลย เหนื่อยไหม ? ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ชอบที่สุด เพราะหนึ่งเราได้เปรียบคนอื่น
เพราะเราเรียนมาสองเราเป็นนักแสดง เราจะเข้าใจวิถีของนักแสดงด้วยกันว่าเขาอยากรู้แบบไหน และอธิบายแบบไหนให้เขาเข้าใจมากที่สุด ก็เลยชอบ