แทบไม่เชื่อสายตา ยืนข้างนางเอกยังจำไม่ได้!
ภาพล่าสุด ‘เอกรัตน์ สารสุข’ วัย 47 ยอมออกวงการ รับไม่ได้ต้องเล่นบทพ่อนางเอก
หากจะพูดถึงพระเอกหนุ่มหล่อเข้มในยุคก่อนของช่อง 7 คงไม่มีใครไม่รู้จัก เอกรัตน์ สารสุข ที่เคยมีผลงานด้านการแสดงตั้งแต่ 2539-2552
ทั้งละคร อาทิ ทัดดาวบุษยา (2540), เงาอโศก (2542), เปร๓วัดสุทัศน์, อกธรณี ฯลฯ และภาพยนตร์เรื่อง จันดารา (2544)
ก่อนจะขอหันหลังให้กับวงการบันเทิงพร้อมทิ้งละครเรื่องสุดท้ายให้แฟน ๆ ได้ดูและเหตุผลที่ทำเอาหลายคนฮือฮาสุด ๆ
อย่างเรื่อง บ่วงหงส์ ว่า “ทำใจไม่ได้หากไม่ได้รับบทเป็นพระเอก” ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็หันไปเอาดีกับการทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับเครื่องประดับแล้ว
และนี่คือภาพปัจจุบันของ เอกรัตน์ สารสุข ที่เราเอามาฝากแฟน ๆ ละครให้หายคิดถึงกันด้วย ถึงเวลาจะผ่านไปขนาดไหนแต่เจ้าตัวก็ยังหล่อเข้มไม่เปลี่ยน
เอกรัตน์เกิดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2518 อดีตเป็นนักแสดงและนายแบบชาวไทยเกิดที่กรุงเทพมหานคร
เอกรัตน์เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่อตอน อายุ 19 ปี จากการเป็นนายแบบและได้รับโอกาสโดยการชักชวนจากก้อง ปิยะ เศวตพิกุล เป็นนักแสดงชาวไทย เป็นคนแนะนำให้มาเดินแบบและในภายหลังเอกรัตน์มีผลงานโฆษณาต่างๆ
ในปัจจุบันเอกรัตน์ประกอบอาชีพส่วนตัว เช่น ทำธุรกิจเกี่ยวทัวร์การท่องเที่ยวและเขามีผลงานละครเรื่อง บ่วงหงส์ เป็นละครเรื่องสุดท้ายออกอากาศทางสถานีช่อง 7
ภายหลังเขาสิ้นสุดสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 ได้ยุติรับงานการแสดงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เพื่อประกอบอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว
เช่น เครื่องประดับต่างๆ และในปัจจุบันเอกรัตน์มีธุรกิจเป็นเกี่ยวกับจิวเวลรี่ แบรนด์ Augusty สามารถหาซื้อได้ตาม ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เป็นต้น
พร้อมเผยถึงสาเหตุที่เลิกเล่นละครไว้ว่า “ที่เลิกเล่นละคร เพราะสมัยก่อนผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความเป็นตัวเองสูง
คิดอะไรด้านเดียว ไม่หลากหลาย ตอนนั้น อายุ 29 เล่นละครเรื่อง มาทาดอร์ ก็ประกาศว่าจะลาวงการตอนอายุ 32
เพราะผมรับไม่ได้ที่จะต้องอายุ 30 แล้วต้องมารับบทเป็นพ่อ คือยอมรับว่าตอนนั้นเรายังเด็กและคิดด้วยอัตตา
ถ้าจะให้เป็นอย่างนั้น เลิกเล่นดีกว่า และมันเหมือนบทมาถึงทางตัน ไม่มีบทแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้เล่นแล้วพอถึงเวลาที่เรากำหนดไว้
ก็ต้องทำตามที่พูดเอาไว้ แล้วก็ออกมาทำอย่างอื่น แม้ผู้ใหญ่จะเสนอบทใหม่มาให้ แต่ผมก็ปฏิเสธไป เพราะบทที่ได้มาไม่ได้เป็นพระเอก