ล่าสุด ‘ตุ๊ก วิมลเรขา’ ทิ้งชีวิตนางเอกหันไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่พะเยา
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักดารานางเอกสาวคนนี้ ตุ๊ก วิมลเรขา ที่เข้าสู่วงการเมื่อปี 2538 โดยในช่วงนั้นอดีตนางเอกเพิ่งจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และสอบตั๋วทนายผ่าน สามารถเป็นทนายเต็มตัวได้แล้ว แต่ยังไม่มีใครทราบ ในช่วงเดียวกันก็มีโอกาสได้พาเพื่อนไป Casting คัดนักแสดง
แต่จับพลัดจับผลู กลายเป็นตัวเองที่ได้งาน โดยประเดิมละครเรื่องแรกคือ “ขุนศึก” ละครฟอร์มยักษ์ในยุคนั้นเส้นทางในวงการบันเทิงของเธอต่อจากนั้น ตุ๊ก วิมลเรขา มีโอกาสสัมผัสกับ งานพิธีกร อาทิ รายการบ้านเลขที่ 5,
พากินพาเที่ยว, ท้าเที่ยวไทย, ลุ้นข้ามโลก ฯลฯ ได้มีโอกาสเห็นและสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ได้ไปดูสถานที่ Unseen Thailand ทั่วประเทศไทย
หลังจากนั้นได้กลับมาเรียนต่อเนติบัณฑิต ต่อด้วยปริญญาโทและปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยเดิม จนจบเป็นด็อกเตอร์ และเป็นอาจารย์ที่คณะนิติศาสตร์ ม.พะเยา ในปัจจุบัน
“หลังเรียนจบด็อกเตอร์ก็ได้รับการชักชวนจากท่านคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ท่านเป็นนักเรียนปริญญาเอกรุ่นเดียวกัน จบมาพร้อมกัน ท่านชวนให้มาเป็นคุณครูที่หุบเขาในจังหวัดพะเยา
มาเป็นแม่พิมพ์สอนกฎหมาย สร้างเด็กกฎหมายรุ่นใหม่ๆ เพราะด็อกเตอร์ในเมืองไทยทางด้านกฎหมายหายากมาก เป็นช่วงของการขาดแคลน ที่มีอยู่ก็มักอยู่ในสายการเมือง อยู่ในองค์กรต่างๆ
เช่นศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง หรืออัยการ ซึ่งท่านเหล่านี้ ไม่ได้มาเป็นครูที่อยู่ประจำ ดูการพัฒนาการของเด็ก ส่วนใหญ่ท่านผู้ใหญ่จะเป็นครูพิเศษบินมาสอนในบางช่วงเวลาเท่านั้น ไม่ได้มาคลุกคลีแบบนี้
สิ่งที่มหาวิทยาลัยขาดคือต้องการมีครูที่อยู่กับเด็กมาสร้างนักกฎหมายรุ่นใหม่ ที่จะออกไปทำให้บ้านเมืองนี้เดินต่อไปอย่างสงบสุข
“ตอนแรกตุ๊กไม่เคยคิดว่าจะมาได้ เพราะยังติดงานวงการบันเทิงอยู่ แต่คงเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิต ไหนๆ เรียนมาทางด้านนี้แล้วก็ต่อไปให้ถึงปลายสุดเลย
เพราะยังไม่มีดาราที่จบปริญญาเอกทางด้านกฎหมายในตอนนั้น เปลี่ยนหน้าที่ในการรับผิดชอบพยายามทำให้ดีที่สุด
แบบที่จะเป็นได้ในวิชาชีพนั้น ไม่ว่าจะเป็นดาราก็ตั้งใจ เป็นทนายก็ตั้งใจ มาเป็นครูก็ตั้งใจ พยายามหาจุดที่มันเป็นความสุขให้ได้
“ขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ มาหลายปีแล้ว ที่มหาวิทยาลัยพะเยา อยู่ในหุบเขา ซึ่งมีธรรมชาติที่สวยงามมาก ถือว่าเป็นช่วงที่พักผ่อนและสร้างคนให้กับสังคม
บางทีก็มีลูกศิษย์แซว เงินเดือนอาจารย์ ดูท่าจะไม่พอค่าเครื่องสำอาง เค้าก็สงสัยกันว่าทำไมไม่ไปเลือกอยู่เมืองหลวง เพราะค่าตอบแทนคุณครูในหุบเขาก็ไม่ได้มีค่าตอบแทนอะไรมากมาย
เพื่อนวงการบันเทิงถามว่าเป็นครูบ้านนอกแล้วจะพอกินหรอ เค้าสงสัยว่าติดลบทุกเดือนแต่ทำไมถึงอยู่ได้ เราก็บอกว่าก็ไม่ต้องดูบัญชีทำลืมๆไป อาศัยที่เรามีความตั้งใจที่เข้มแข็ง