เรือนหอ ‘ป๊อก ปิยธิดา’ เผยเรื่องจริงชีวิตคู่ หลังแต่งไม่ได้เข้าบ้าน

เรือนหอ ‘ป๊อก ปิยธิดา’ เผยเรื่องจริงชีวิตคู่ หลังแต่งไม่ได้เข้าบ้าน

เป็นคู่รักที่ทุกคนอิจฉา แต่น้อยครั้งนักที่ ป๊อก ปิยธิดา และ ตั๊ก นภัสกร ที่คบหารวมแต่งงานมีชีวิตคู่มากว่า 16 ปี ล่าสุดทั้งคู่มาเปิดเผยเรื่องราวความรัก

โดย ตั๊ก เผยว่า เจอกันด้วยเหตุบังเอิญ ผมไปกินข้าว ตอนนั้นเล่นละคนเวที ซ้อมเสร็จก็ไปกินข้าว ดึกแล้วเที่ยงคืน ตอนนั้นเจอไม่รู้ว่าเค้าเป็นดารา

เราไม่ได้อยู่ในโลกสื่อมากนัก เค้าดัง ผมประเภทอยู่กับความมืดซ้อมละครเวทีเลิกดึกตื่นเช้าก็ไปซ้อมออีกชีวิตก็อยู่กับมันจากนั้นก็ค่อยมาๆ เริ่มได้เจอกันกับเพื่อนๆ

คุยกัน ได้แลกเปลี่ยนทัศนคติ ก็รู้ว่าเออมันตรงกัน แต่ตอนเจอเขาเราไม่มีใครปีแรกเราเมาด้วยกันทุกวัน เราใช้เครื่องดื่มละลายพฤติกรรม เจอกันที่ไรก็ดื่มไปเปิดใจไป

เรามองว่าตอนเมาเราจะขาดสติ เป็นตัวของตัวเอง เราค่อยๆ เปลี่ยนสถานะ โดยที่เราก็ไม่ได้รู้ตัว ว่าเราเป็นแฟนหรือยังคบกันมา 10 ปีถึงจะแต่งาน ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะแต่ง

เราคบไปเรื่อยๆ มีปัญหากันมาเรื่อยๆ ครอบครัวเขาครอบครัวผม ทุกคนก็มองว่าจะไปกันได้เหรอ แต่เราก็ค่อยๆ เรียนรู้กันไป เห็นว่าครอบครัวป๊อกไม่ชอบตั๊กตั๊ก

“เราเจอกันส่วนใหญ่จะเจอกลางคืน พอเวลาไปบ้านเขาก็จะไม่ใช่กลางวัน บ้านป๊อกเขาจะลึกเป็นถนนลุกรัง ผมก็จะขับรถตามไปส่ง ตี 1 ตี 2 แต่มีอยู่คืนหนึ่ง

รถผมเสียหลังจากส่งเขา ป๊อกเขาก็ไม่รู้ ผมก็ทิ้งรถไว้ เข็นไปจอดแอบๆ เช้าวันรุ่งขึ้นโทรไปหาเขา ได้ยินเสียงพ่อเขาโวยวาย แน่จริงออกมา ลุกผู้ชาย

รู้นะว่าหลบอยู่ในตู้ ไอลุกxมา นึกว่าไม่รู้เหรอว่าจอดรถอยู่แอบๆ น่ะ เราก็ถามป๊อกว่าพ่อเป็นอะไร ป๊อก พ่อโวยวาย เขานึกว่าพี่ตั๊กอยู่ในห้อง

ก็เลยยื่นให้เขาคุยว่า นี่ไงพ่อจะคุยกับเขามั้ย ตั๊ก พ่อก็บอกว่า อ๋อเหรอแล้วไป ทุกวันนี้พ่อก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้อีกเลย แล้วเอาชนะใจครอบครัว ป๊อก ได้ยังไงตั๊ก

เวลาครับเป็นเรื่องของเวลา นานครับกว่าจะได้เข้าบ้านแบบจริงจัง ไปรอบสอง พี่สาวยังยืนเหล่ผมอยู่เลย ครอบครัวหวงป๊อก หรือตั๊กไม่น่าไว้ใจ

ป๊อก ป๊อกว่าเขาหวง (ตั๊กเสริมผมว่าสองอย่าง) ด้วยเวลาด้วยละค่ะ เขาเห็นพี่ตั๊กยามวิกาลตลอด ทางบ้านตั๊กล่ะ ว่ายังไงตั๊ก คุณแม่ผมก็เตือนว่าเราจะคบเขาได้เหรอ

ต่างกันเยอะนะ ปัจจุบันทั้งคู่มองอนาคตกันยังไงบ้าง สำหรับป๊อกไปเรื่อยๆ เราอยู่กับปัจจุบันไปได้ดีก็อยู่ไปเรื่อยๆ ไม่อยากมีลุก ตั๊ก: ก่อนจะแต่งงานเคยคุยกันเรื่องนี้

เราไม่ซีเรียส ตอนก่อนแต่งถ้าเรามีแล้วเราทำงานไม่มีเวลาดู เรารู้สึกว่าเราไม่ได้รับผิดชอบเค้าเต็มที่ พอแต่งงานรู้สึกว่าไม่มีลุกก็ดีเหมือนกัน เพราะว่าเราอาจจะดูแลเค้าไม่เต็มที่

พอมาถึงปัจจุบันเรารู้สึกว่าพี่สาวเค้ามีลุก พี่สาวผมก็มีลุก เราให้สิ่งนี้กับลุกหลานเท่าที่เราให้ได้ ชีวิตเราตอนนี้เห็นว่าอยู่ยากการแข่งขันมันสูง การให้คนดีๆสักคนเกิดขึ้นในสังคม

ผมว่าเอาตรงนั้นดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นลุกใครก็แล้วแต่ช่วยกันทำให้เค้าเติบโตแล้วมันจะไปได้สวย บั้นปลายเราจะเห็นสิ่งรอบข้างที่หนึ่งคนเอฟเฟคกับทั้งโลกอ่ะ

คนๆนึงสามารถเปลี่ยนชะตาทั้งโลกได้ อีกเรื่องนึงคือเค้าไม่ได้อยากให้ใครต้องมาดูแล