ได้แต่บทเด่น! แย่งรางวัล ‘ลินดา’
ชีวิตล่าสุด ‘รัชนู บุญชูดวง’ อดีตนางเอกดังในตำนาน กับวัยย่างเข้าเลข 7
รัชนู บุญชูดวง เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2496 ที่กรุงเทพมหานคร เรียนจบแผนกมัณฑนศิลป์ จากวิทยาลัยเพาะช่าง ก่อนเข้าวงการบันเทิง
เคยทำงานที่บริษัทนำเที่ยวมาก่อน ต่อมาได้เป็นนางแบบแสดงแบบเสื้อและทรงผม เริ่มต้นการแสดงจากการชักชวนของ ไพรัช สังวริบุตร
หลังจากเห็นเธอทางโฆษณาและถ่ายแบบลงนิตยสารต่างๆ และเดินแบบชุดเจ้าสาวออกทีวีช่อง 5 โดยให้มาลงชิมลางภาพยนตร์ทีวี (ใช้พากย์เสียง)
ยอดฮิตในขณะนั้น คือ กฎแห่งกรรม และ ขุนแผนผจญภัย เมื่อปี พ.ศ. 2519 ทางช่อง 7 สี จากนั้นก็มอบบทเด่นให้ เป็นนางเอกเต็มตัว
จากภาพยนตร์ทีวีเรื่อง พระทิณวงศ์ ตามด้วย กระสือ ซึ่งโด่งดังไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว เขมร พม่า จนไปเข้าตา อารีย์ นักดนตรี
ที่เป็นทั้งอดีตนางเอกละครโทรทัศน์และเป็นผู้จัดละครให้ช่อง 9 อสมท.ขณะนั้น (ปัจจุบันคือ โมเดิร์นไนน์ทีวี) อี๊ดจึงมีผลงานละครเรื่องแรกคือ
คุ้มผาคำ ในปี พ.ศ. 2521 เป็นนางเอกประกบกับ กรรณิการ์ ธรรมเกษร ทำให้เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น เรื่องต่อมา ถูกดึงให้ไปรับบทหนัก
เพราะเห็นในศักยภาพของเธอ จึงมอบบทนำให้ ประกบ 3 พระเอกดังในยุคนั้น นิรุตติ์ ศิริจรรยา, สุเชาว์ พงษ์วิไล และ อัศวิน รัตนประชา
ในละคร ใครกำหนด กับบท ทาริกา หรือ นิ่ม หญิงสาวผู้เกิดมาพร้อมกับชะตากรรมอันแสนรันทด ซึ่งก็ทำให้เธอเกิดในวงการละครสมใจ
เริ่มมีผลงานทางจอเงิน โดยเริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก คือ ดรรชนีไฉไล คู่กับ อาวุธ พิทักษ์พงษ์ โดยเล่นเป็นรุ่นลูกของ กรุง ศรีวิไล
และ อรัญญา นามวงษ์ จากนั้นจึงมีผลงานทั้งทางจอแก้วและจอเงิน สลับสับเปลี่ยนกันไป แต่ส่วนใหญ่เน้นไปที่ละครทีวี เธอมักได้รับบทนางเอกเจ้าน้ำตา
และบทที่บีบคั้นคนดู ส่วนนใหญ่คู่กับ นิรุตติ์ ศิริจรรยา นางเอกดังร่วมยุคกับเธอในตอนนั้น ยังมีข้อน่าสังเกต และยังเป็นที่กังขา
สำหรับแฟนละครตอนนั้น คือ ละคร ‘ไฟรักไฟพยาบาท’ ที่รัชนูรับบทเป็นนางเอกและมีบทเด่นตลอดเรื่อง แต่เธอกลับถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเมขลา
ในฐานะดาราสนับสนุนหญิง แล้วก็ได้รับรางวัลไป ซึ่งในปีนั้น ลินดา ค้าธัญเจริญ เป็นผู้ที่ได้ครอบครองรางวัลนักแสดงนำหญิง
จากละครเรื่อง ชลาลัย บ้างก็ว่าเป็นเพราะคณะกรรมการชอบบทบาทของทั้งสองจากละครทั้งสองเรื่อง แต่รางวัลดารานำหญิงมีแค่เพียงรางวัลเดียว